ช่วงนี้ถ้าใครตามข่าว K-Drama จะต้องเห็นชื่อ Lee Yi Kyung (อี อีคยอง) พุ่งขึ้นมาติดประเด็นร้อนเรื่อง “ชีวิตส่วนตัว” ที่ทำเอาคนงงทั้งไทม์ไลน์ ล่าสุดเจ้าตัวไม่ปล่อยให้เป็นแค่ข่าวลือที่ต้องทนอีกต่อไป! เขาตัดสินใจออกมาโพสต์ “จดหมายยาว” ผ่าน Instagram ส่วนตัว พร้อมแนบ “รูปเอกสารการฟ้องร้อง” ชัด ๆ เพื่อประกาศว่านี่คือการเดินหน้า “ทางกฎหมายจริงจัง” ไม่ใช่แค่คำพูดลอย ๆ
บทความนี้จะมาสรุปไทม์ไลน์ดราม่าแบบม้วนเดียวจบ ตั้งแต่การเปิดฉาก “แฉ” ที่อ้างว่ามีแชทส่วนตัวหลุดออกมา การกลับคำเรื่อง “แชทปลอมด้วย AI” ที่ทำให้คนยิ่งสับสน ไปจนถึงเนื้อหา จดหมายฉบับเต็ม ที่ Lee Yi Kyung ส่งตรงถึงแฟน ๆ เพื่อเคลียร์ทุกประเด็น รวมถึงดราม่าการถอนตัวจากรายการวาไรตี้ เรามาดูกันว่าในยุคที่เทคโนโลยีทำให้ “หลักฐานปลอม” ดูสมจริงได้แทบทุกอย่าง คนเสพข่าวอย่างเราควรรู้เท่าทันและระวังอะไรบ้าง
⏱️ ไทม์ไลน์ดราม่า: จากโพสต์ปริศนาสู่การฟ้องร้องที่ Seoul Gangnam Police Station
ดราม่าของ Lee Yi Kyung เริ่มขึ้นมาอย่างหนักตั้งแต่เดือนตุลาคม เมื่อมีบุคคลนิรนามที่ถูกเรียกว่า “A” โพสต์ผ่านโซเชียลส่วนตัว บอกว่าจะ “แฉตัวตนที่แท้จริงของ Lee Yi Kyung” พร้อมแนบรูปแชทและภาพหน้าจอที่อ้างว่าเป็นการคุยกันแบบส่วนตัว ซึ่งมีเนื้อหาที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมและมีความล่อแหลมทางเพศ จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์สนั่นโซเชียล
-
ต้นสังกัดปฏิเสธและเตรียมฟ้อง: ไม่นานหลังจากนั้น ต้นสังกัด ของ Lee Yi Kyung ก็ออกแถลงการณ์อย่างรวดเร็วเพื่อ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และประกาศเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับโพสต์ที่เป็นเท็จทันที
-
“A” กลับคำครั้งที่ 1 (อ้าง AI): หลังจากที่โดนต้นสังกัดเตรียมฟ้อง “A” ก็ออกมาขอโทษและบอกว่า รูปภาพ/แชทที่นำมาโพสต์นั้น “ทำเล่น” และเป็นภาพที่สร้างมาจาก ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ใช่หลักฐานจริง ก่อนจะลบโพสต์ออกทั้งหมด
-
“A” กลับคำครั้งที่ 2 (ยืนยันว่าจริง): แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น! วันที่ 19 พฤศจิกายน “A” กลับมาโพสต์อีกครั้ง โดย กลับคำ ว่าที่เคยยอมรับว่าหลักฐานปลอมเป็น AI นั้น “ไม่ใช่ความจริง” และยืนยันอีกครั้งว่า “หลักฐานทั้งหมดเป็นเรื่องจริง” ทำให้ดราม่ากลับมาปะทุและทำให้คนสาธารณะยิ่งสับสนว่าอะไรคือความจริงกันแน่
💌 จดหมายจาก Lee Yi Kyung: ทำไมถึงเพิ่งพูด? และเคลียร์เรื่องถอนตัวจากรายการวาไรตี้
วันที่ 21 พฤศจิกายน Lee Yi Kyung จึงเลือกที่จะออกมาโพสต์จดหมายยาวชี้แจงด้วยตัวเองผ่าน Instagram พร้อมแนบรูป เอกสารคำร้องทุกข์ ที่ยื่นฟ้องคนปล่อยข่าวลือ เขาอธิบายเหตุผลที่เงียบมานานว่า ต้นสังกัด ขอให้ “งดการให้ความเห็น” จนกว่าจะหาทนายและดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องร้องอย่างเป็นทางการ
## ประเด็นหลักในจดหมายมีอะไรบ้าง?
-
ฟ้องแล้วจริงจัง! : เขาได้ไปให้ปากคำที่ Seoul Gangnam Police Station ในฐานะ ผู้เสียหาย และดำเนินเรื่องแจ้งข้อหา “แบล็กเมล/ข่มขู่” และ “หมิ่นประมาทด้วยการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จทางออนไลน์” ต่อผู้ที่สร้างข่าวลืออย่างเป็นทางการแล้ว ****
-
เครียดหนักจนทนไม่ไหว: เขาเล่าความรู้สึกว่า “โกรธและเครียดมากในทุกขั้นตอน” เพราะคนที่อ้างว่าเป็นชาวเยอรมันนั้นไม่รู้ตัวตนที่แน่ชัด เหมือนเป็นการ “แบล็กเมลแล้วหายไป” ซึ่งคล้ายกับอีเมลข่มขู่ที่เคยถูกส่งมาถึงบริษัทเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้
-
ยอมถอนตัวจากวาไรตี้เองเพราะกลัวกระทบคนอื่น: แม้ว่า “A” จะยอมรับว่าหลักฐานปลอมภายในหนึ่งวัน แต่กระแสสังคมก็ไม่ได้หายไปง่าย ๆ เขาเลยได้รับคำแนะนำให้ “ถอนตัวจากรายการวาไรตี้” เพื่อไม่ให้กระทบภาพรวมของรายการ **** สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจ “ถอนตัวออกมาเอง” แม้จะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งก็ตาม
-
เคลียร์ดราม่าเก่า: เขายังถือโอกาสเคลียร์ดราม่าเก่าอย่างเคส “myeonchigi” (ชาเลนจ์ดูดก๋วยเตี๋ยว) ด้วย โดยบอกว่าความจริงเขาเคยบอกแล้วว่า “ไม่อยากทำ” แต่ทีมงานบอกว่าเช่าร้านมาแล้ว สุดท้ายเลยยอมถ่ายด้วยทัศนคติว่า “ทำเพราะความบันเทิง” แต่ประโยคนี้ถูกตัดออกจากการออกอากาศ ทำให้เขาต้องรับแรงดราม่าไว้คนเดียวและภาพลักษณ์เสียหายหนัก เขาเผยความรู้สึกว่า “ดาราเองก็เป็นคนทำงานคนหนึ่ง” ที่บางครั้งไม่ได้มีอำนาจควบคุมทุกอย่างอย่างที่แฟน ๆ คิด
🛡️ ย้ำชัด! “ไม่มีการผ่อนปรนให้กับคอมเมนต์มุ่งร้าย”
ในช่วงท้ายของจดหมาย Lee Yi Kyung ยืนยันหนักแน่นว่าเรื่องนี้ จะไม่จบลงด้วยการปล่อยผ่าน เพื่อให้เป็นตัวอย่างสำหรับคนที่คิดจะใช้โลกออนไลน์ทำร้ายคนอื่นแบบไม่รับผิดชอบ
-
เดินหน้าเต็มที่: กระบวนการทางกฎหมายกำลังเดินหน้าอยู่ เมื่อมีการออกหมายจับก็จะสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจน
-
ตามไปฟ้องถึงต่างประเทศ: แม้ว่าคนที่เกี่ยวข้องจะอ้างว่าอยู่ต่างประเทศ เช่น ประเทศเยอรมนี เขาก็พร้อมจะ เดินทางไปดำเนินการฟ้องร้องด้วยตัวเอง
-
ขอบคุณแฟน ๆ: เขายังขอบคุณแฟน ๆ และทีมงานทุกคนที่ยังคงเชื่อมั่นและสนับสนุนเขา พร้อมยืนยันว่าตารางถ่ายทำ ผลงานใหม่ ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ต่างประเทศ และวาไรตี้บางส่วน ยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติ ไม่ได้ถูก “แบน” อย่างที่หลายคนกังวลเลย
🤔 คนเสพข่าวต้องรู้! AI ปลอมหลักฐานในยุค K-Drama
กรณีของ Lee Yi Kyung สะท้อนปัญหาสำคัญในวงการบันเทิงเกาหลีที่เกิดขึ้นบ่อยมากในยุคนี้:
-
AI สร้างหลักฐานปลอมง่ายขึ้น: การใช้ AI ทำให้การปลอมแปลงหลักฐานง่ายขึ้นมาก ตั้งแต่รูปแคปหน้าจอ, แชทปลอม ไปจนถึงเสียงและวิดีโอ (deepfake) พอมีคนออกมากลับคำเรื่องปลอมหลักฐาน คนดูข่าวยิ่งสับสนและแยกแยะความจริงยากขึ้น
-
การฟ้องหมิ่นประมาทออนไลน์คือเรื่องจริง: ค่ายและนักแสดงเกาหลีตอนนี้ จริงจังมาก กับการฟ้องคนปล่อยข่าวลือและคอมเมนต์รุนแรง ไม่ใช่แค่โพสต์ขู่เล่น ๆ หลายเคสมีการดำเนินการถึงศาลจริง ๆ ทั้งข้อหาหมิ่นประมาท แบล็กเมล และการละเมิดกฎหมายการสื่อสารออนไลน์
-
สิทธิของคนสาธารณะ: ถึงแม้ดาราจะเป็น “คนสาธารณะ” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตทุกด้านจะกลายเป็นสมบัติของสาธารณะไปทั้งหมด การปกป้องชื่อเสียงและการฟ้องร้องคือการ ขีดเส้น ว่าการถูกคุกคามหรือสร้างเรื่องเท็จนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
การดูข่าวในยุคนี้จึงต้อง “อ่านให้ครบ แยกแหล่งข่าว” และ “ไม่ตัดสินจากโพสต์แฉแค่ฝั่งเดียว” เพราะถ้าเราเผลอแชร์หรือคอมเมนต์อย่างมุ่งร้ายโดยที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ตัวเราเองก็อาจกลายเป็นผู้ที่ หมิ่นประมาท และต้องรับผิดชอบทางกฎหมายได้
📝 FAQ – คำถามที่เจอบ่อยเกี่ยวกับประเด็น Lee Yi Kyung
-
Q1: ดราม่าของ Lee Yi Kyung เริ่มจากอะไร?
-
A: เรื่องเริ่มจากที่บุคคลนิรนาม “A” โพสต์บนโซเชียลว่าจะแฉตัวจริงของ Lee Yi Kyung พร้อมรูปแชทที่อ้างว่าเป็นบทสนทนาส่วนตัว เนื้อหาไม่เหมาะสม จนเกิดกระแสวิจารณ์ ก่อนที่ A จะออกมาบอกว่าภาพถูกทำจาก AI แล้วก็กลับคำอีกรอบว่าสิ่งที่โพสต์เป็นเรื่องจริงทั้งหมด
-
-
Q2: ตอนนี้ Lee Yi Kyung ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง?
-
A: ล่าสุดเขาออกมาชี้แจงเองผ่าน Instagram ว่าได้ ยื่นคำร้องทุกข์ ที่ Seoul Gangnam Police Station ในฐานะผู้เสียหายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยแจ้งข้อหาทั้ง แบล็กเมล และ หมิ่นประมาท จากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เขายืนยันชัดเจนว่าจะ ดำเนินคดีต่อ และจะไม่มีการยอมความให้ใครเลย
-
-
Q3: แล้วดราม่าการถอนตัวจากรายการวาไรตี้คืออะไร?
-
A: เขาชี้แจงว่า ถึงแม้คนโพสต์แฉจะยอมรับว่าหลักฐานปลอมไปแล้ว แต่กระแสสังคมยังคงมีผลกระทบต่อรายการ ทำให้เขา ได้รับคำแนะนำให้ถอนตัว และสุดท้ายก็ ตัดสินใจถอนตัวออกมาเอง เพื่อไม่ให้กระทบภาพรวมของรายการ แม้จะรู้สึกไม่ยุติธรรมก็ตาม นอกจากนี้ เขายังเคลียร์ดราม่าเรื่อง myeonchigi ที่ทำให้ภาพลักษณ์เสียหายหนัก โดยระบุว่าทีมงานตัดบทสนทนาที่เขาพูดออกอากาศไป
-
