สวัสดีทุกคน! ช่วงนี้ใครกำลังมองหาซีรีส์เกาหลีสนุกๆ ดูข้ามคืนบ้าง? รับรองว่าต้องเคยเห็นชื่อ “The Tale Of Lady Ok” กับ “Iron Family” ผ่านๆ ตากันมาบ้างแน่นอน เพราะสองเรื่องนี้กำลังเป็นกระแสสุดๆ แถมยังใกล้จะถึงตอนจบแล้วด้วยเรตติ้งพุ่งกระฉูดเกิน 10% ไปแบบสวยๆ ชนิดที่ทำให้แฟนๆ ต้องตาค้างกับความปังของเนื้อเรื่องและนักแสดง เรียกได้ว่ากำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม จนหลายคนพร้อมใจต้องการดูตอนจบสดๆ ร้อนๆ แบบห้ามพลาดแม้แต่วินาทีเดียว!
วันนี้เราจะมาเมาท์มอยกันแบบเพลินๆ ถึงความสนุกของทั้งสองเรื่อง ตั้งแต่โทนเรื่อง นักแสดง ไปจนถึงโมเมนต์เด็ดๆ ที่หลายคนกำลังเฝ้ารอ จะจัดเต็มสปอยล์หรือไม่ก็ต้องติดตามกัน แต่รับรองว่าเราจะมาเล่าให้ฟังในสไตล์ที่เข้าใจง่ายๆ สบายๆ และขอเตือนว่าระวังอ่านไปจะอยากปาโทรศัพท์ไปดูตอนใหม่เดี๋ยวนั้นเลย!
1. ทำความรู้จัก “The Tale Of Lady Ok”
พล็อตเรื่องโดยย่อ
“The Tale Of Lady Ok” เป็นซีรีส์แนวย้อนยุคผสมโรแมนติกคอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวของตัวละครหลัก Lady Ok หญิงสาวจากตระกูลสูงศักดิ์ที่ต้องเผชิญชะตากรรมสุดพลิกผัน ภายใต้ฉากหลังสมัยโชซอน (Joseon) ที่เต็มไปด้วยขนบธรรมเนียมเข้มงวด เธอคือคุณหนูผู้ไม่เคยหยุดฝัน อยากเปิดโปงความจริงบางอย่างและอยากใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ซึ่งเส้นทางนั้นไม่ง่ายเลย เพราะมีทั้งฝ่ายการเมือง กฎเกณฑ์ครอบครัว และรักสามเส้าชวนให้ลุ้นไม่หยุด
เสน่ห์ของซีรีส์
- โทนเรื่องคอมเมดี้: แม้จะเป็นพีเรียดดราม่า แต่ก็มีฉากขำๆ ให้เราหัวเราะสลับความตื่นเต้น ตัวละครต่างๆ จะมีมุมหยิกแกมหยอก มุกตลกหน้าตายที่ให้บรรยากาศเบาสมอง
- ความเป็นเฟมินิสต์เบาๆ: ตัวละคร Lady Ok มีความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ในสมัยโชซอน เธอเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา พยายามทลายกำแพงประเพณีเพื่อค้นหาความจริงและอิสรภาพของตนเอง
- งานโปรดักชันละเอียด: เสื้อผ้า หน้า ผม และฉากต่างๆ ดูสวยงามปราณีต บ่งบอกถึงการลงทุนของทีมงานอย่างเต็มที่
- เคมีพระนางเป๊ะเวอร์: แม้จะมีพล็อตการเมือง แต่สายจิ้นก็ฟินได้ เพราะบรรดาพระรอง พระเอก ต่างก็มีคาแรกเตอร์ชัดเจน ชวนให้กรี๊ดกร๊าด แต่ก็ต้องลุ้นกันว่าใครจะเป็นผู้ครองหัวใจของ Lady Ok ในท้ายที่สุด
เรตติ้งทะลุฟ้า
“The Tale Of Lady Ok” เริ่มออกอากาศแบบเงียบๆ แต่เรตติ้งค่อยๆ ไต่ขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ใกล้ตอนจบสัปดาห์หน้าก็เบียดขึ้นเลขสองหลักได้อย่างสง่างาม บางคนก็บอกว่าเพราะเนื้อหาช่วงหลังกำลังเข้มข้น ปมใหญ่กำลังจะถูกเปิดเผย เลยทำให้คนดูติดหนึบ จนต้องคอยตามดูทุกตอน
2. ทำความรู้จัก “Iron Family”
พล็อตเรื่องโดยย่อ
“Iron Family” เป็นซีรีส์แนวครอบครัวผสมคอมเมดี้ ดราม่า และความรักอันหลากหลาย แถมบางครั้งยังมีฉากแอ็กชั่นเบาๆ ตามสไตล์ละครที่อยากขยี้ความมันครบเครื่อง เรื่องนี้โฟกัสที่ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีสมาชิกหลายเจเนอเรชัน แต่ละคนมีบุคลิกและปมในใจต่างกันไป ทั้งความฝัน หน้าที่ การงาน รวมถึงเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่แสนจะวุ่นวาย ทุกอย่างมาเจอกันแบบปะทะอารมณ์ จนเกิดเรื่องป่วนๆ ที่บางทีก็ทำให้เราขำ บางทีก็ทำให้เราเกือบหลั่งน้ำตา
ความสนุกที่พลาดไม่ได้
- ความตลกเรียลๆ: เพราะโฟกัสชีวิตครอบครัว เลยทำให้หลายฉากชวนให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเห็นเหตุการณ์ขำขันในครอบครัวจริงๆ มีทั้งเล่นมุกโดนๆ และประเด็นดราม่าเรียกน้ำตา
- ดารามากฝีมือ: แต่ละคนรับบทในหลากหลายช่วงวัย แถมมีสายรุ้งด้านอารมณ์ที่กว้างมาก พอฉากไหนต้องจัดเต็มดราม่าก็ใส่มาเต็ม พอฉากไหนต้องฮาก็ล้น ขโมยซีนกันกระจาย
- ข้อคิดเกี่ยวกับสายสัมพันธ์: “Iron Family” สื่อสารถึงการให้อภัย ความรัก และการเดินหน้าต่อไปของคนในครอบครัว แฟนๆ ดูแล้วจะรู้สึกอบอุ่นใจ แถมบางทีก็อินหนักอยากจูงมือคนที่บ้านมากอดแน่นๆ
- ฉากลับมีเซอร์ไพรส์: มีข่าวลือว่าตอนท้ายๆ อาจมีนักแสดงคนดังโผล่มารับเชิญ หรือมีการเฉลยปมปริศนาที่คนดูคาดไม่ถึง ซึ่งแน่นอนว่าตอนจบต้องมีอะไรให้ว้าวกันแน่นอน
เรตติ้งที่กำลังพุ่ง
หลังจากเปิดตัวด้วยกระแสปานกลาง แต่พอเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้น มีการเผยปมภายในครอบครัวที่ชวนให้คนดูตั้งคำถามตาม ว่าจริงๆ แล้วความรักและการอยู่ร่วมกันของครอบครัวมันต้องอาศัยอะไรกันแน่ จึงทำให้คนดูติดหนึบ เกาะจอรอชมกันทุกสัปดาห์ ส่งผลให้ตอนล่าสุดสามารถทำเรตติ้งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเตรียมปิดฉากในระดับเลขสองหลักเหมือนกัน
3. จุดพีคก่อนสู่ตอนจบ
ทั้ง “The Tale Of Lady Ok” และ “Iron Family” กำลังเดินหน้าเข้าสู่ตอนอวสานในสัปดาห์หน้า ด้วยความคาดหวังสูงลิบลิ่วจากแฟนๆ ว่าจะปิดจบอย่างไร จะสมการรอคอยไหม โดยเฉพาะ “The Tale Of Lady Ok” ที่มีปมการเมืองใหญ่รอการเฉลย ว่าใครอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในราชสำนัก แล้ว Lady Ok จะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เธอฝันหรือไม่ ขณะเดียวกันสายรักสามเส้าก็ลุ้นตัวโก่ง ว่าเธอจะเลือกใคร ใครจะเป็นคนเคียงข้างในบั้นปลาย
ส่วน “Iron Family” เองก็กำลังจะเฉลยเงื่อนงำและปมในใจของตัวละครบางคนที่เก็บซ่อนไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง พอจะใกล้จบก็มีหลายเหตุการณ์ให้ร้อง “อ้าว!” และต้องเฝ้าติดตามว่าเขาหรือเธอจะตัดสินใจแก้ไขปัญหาในครอบครัวยังไง ความรักที่ดูเหมือนราบรื่นจะกลายเป็นรักร้าวหรือเปล่า หรือสุดท้ายจะกอดคอเดินหน้าต่อด้วยกัน เพราะชื่อ “Iron Family” ก็บอกเป็นนัยว่านี่คือครอบครัวเหล็ก ที่รวมใจกันได้แข็งแกร่งน่าดู
4. กระแสแฟนๆ และเบื้องหลังสนุกๆ
ในแวดวงโซเชียลก็เมาท์กันเต็มที่ ทั้งการทายตอนจบ การคาดเดาตัวฆาตกร (กรณี “The Tale Of Lady Ok” หากมีเค้าโครงสืบสวน) หรือแม้แต่การลงเรือต่างๆ ของแฟนๆ ที่อยากให้ Lady Ok คู่กับผู้ชายคนนี้หรือคนนั้นก็สนุกกันใหญ่ ด้าน “Iron Family” ก็ไม่แพ้กัน มีการตั้งทฤษฎีว่าตัวละครคนไหนเป็นลูกลับ หรือใครจะได้แต่งงานก่อนท้ายสุด แถมมีคนแอบสังเกตปฏิทินฉากหลัง หรือนาฬิกาที่โผล่มาตามฉาก เพื่อเก็งบทสรุปแนวสืบสวน(ในครอบครัว) แบบน่ารักๆ
ส่วนข้อมูลเบื้องหลัง เรามีข่าวลือว่าทีมนักแสดงทั้งสองเรื่องเข้าขากันดีมาก ถึงขั้นชวนไปกินข้าวสังสรรค์กันหลังปิดกล้องเป็นประจำ เลยทำให้เคมีในจอของทุกคนดูเป็นธรรมชาติมากๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องขำๆ ว่ามีการนำชุดชนเผ่าหรือชุดสมัยโชซอนมาแกล้งใส่เดินในกองถ่าย “The Tale Of Lady Ok” ให้ทีมงานหัวเราะกันเกรียวกราว ส่วนฝั่ง “Iron Family” ก็มีฉากที่ต้องร้องเพลงรวมครอบครัว ซึ่งเสียงใครบางคนเพี้ยนแต่ดันเป็นซีนฮาแตก จนคนดูกำลังแซวกันในโซเชียลอย่างสนุกสนาน
5. ความคาดหวังในบทสรุป
แน่นอนว่าพอเรตติ้งสูงปรี๊ดขนาดนี้ แฟนๆ ต่างก็หวังว่าจะได้เห็นฉากจบที่น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการคลี่คลายปมการเมืองที่สะใจของ “The Tale Of Lady Ok” หรือการจบแบบอบอุ่นหัวใจพร้อมข้อคิดของ “Iron Family” ที่จะสอนให้เรารู้ว่าครอบครัวที่แท้จริงไม่ใช่แค่คนที่เกิดมาร่วมสายเลือด แต่คือคนที่อยู่เคียงข้างเราเสมอในวันที่เราต้องการใครสักคน
ส่วนในแง่ความสนุกครบเครื่อง ทั้งสองเรื่องก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถึงโค้งสุดท้ายก็ยังไม่มีทีท่าลดรสชาติการเล่าเรื่อง แถมยังกระตุกเรตติ้งจนไปแตะสองหลัก ซึ่งในวงการซีรีส์เกาหลีก็ถือเป็นตัวเลขที่สวยหรูมาก เพราะเดี๋ยวนี้คนดูมีทางเลือกเพียบ นี่จึงเป็นเครื่องการันตีว่าสองเรื่องนี้เป็นละครคุณภาพ มีแฟนคลับติดหนึบอยู่จำนวนไม่น้อย
6. แนะนำทิ้งท้าย
สำหรับใครที่ยังลังเลว่า จะเริ่มดูตอนนี้ทันไหม? เอาจริงๆ แนะนำว่าถ้ามีเวลาดูย้อนหลังก็ดูเถอะ เพราะแต่ละตอนสนุกจนคุ้มค่าการลงทุนเวลามากๆ แต่ถ้าไม่มีเวลา แอบบอกว่าขอให้อ่านสปอยล์ตอนเก่าๆ พอหอมปากหอมคอก็ได้ แล้วมาจอยกับตอนจบพร้อมทุกคน รับรองว่าจะสัมผัสอารมณ์ได้ทันที หรือจะดูย้อนหลังรวดเดียวจบก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว เพราะคุณจะไม่ต้องรอคอยลุ้นนานทีละสัปดาห์
พิเศษอีกอย่างคือ ถ้า “The Tale Of Lady Ok” กับ “Iron Family” จบแล้ว ก็น่าสนใจว่าโปรเจกต์ต่อไปของเหล่านักแสดงจะเป็นยังไง เพราะหลายคนในเรื่องนี้มีฝีมือจัดจ้านมาก อาจจะได้เห็นพวกเขาก้าวไปมีผลงานอื่นๆ เร้าใจ ให้เราได้ติดตามต่อไปแบบไม่ต้องนั่งเหงา
สรุปแล้ว ถ้าคุณเป็นคอซีรีส์เกาหลีที่ชอบความหลากหลายในพล็อต อยากได้ทั้งย้อนยุค การเมือง รักโรแมนติก และชอบดราม่าครอบครัวที่มาพร้อมเสียงหัวเราะ สองเรื่องนี้ตอบโจทย์มาก ขนาดใกล้จะถึงตอนจบแล้วยังแรงไม่ตก แถมคนดูก็ตั้งตารอจนแทบรอไม่ไหว!
ใครไม่อยากหลุดเทรนด์ อย่าลืมปักหมุดวันเวลาตอนจบของ “The Tale Of Lady Ok” และ “Iron Family” ไว้ให้ดี แล้วมาตามลุ้นบทสรุปไปพร้อมๆ กัน บอกเลยว่าดูจบแล้วอาจจะเกิดอาการ “ซีรีส์จบ คนไม่จบ” อยากดูภาคต่อกันรัวๆ แน่นอน
