ถ้าคุณเป็นสายหนังเกาหลีที่ชื่นชอบเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ แถมยังอินกับความเข้มข้นของการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง บอกเลยว่าห้ามพลาด “Harbin” ภาพยนตร์แนวแอคชั่นประวัติศาสตร์เรื่องใหม่ที่กำลังมาแรงสุด ๆ เพราะงานนี้ขนทัพนักแสดงระดับเทพอย่าง Hyun Bin, Park Jung Min, Jeon Yeo Been และนักแสดงชื่อดังอีกมากมาย พร้อมมาถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้อันดุเดือดเพื่อกู้คืนอธิปไตยของเกาหลีให้กลับมาเป็นของชาวเกาหลีอีกครั้ง
“Harbin” ตั้งชื่อตามเมืองฮาร์บิน ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และเคยมีความสำคัญต่อขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชของเกาหลีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพราะสมัยนั้นเกาหลียังอยู่ใต้เงื้อมมือของจักรวรรดิญี่ปุ่น บรรยากาศบ้านเมืองเต็มไปด้วยความกดดัน การถูกควบคุม และความไม่เป็นธรรม นักสู้เพื่ออิสรภาพจำนวนมากจึงจำเป็นต้องลี้ภัยหรือเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อหาโอกาสวางแผนต่อสู้เพื่อปลดแอกตนเองจากการปกครองที่เข้มงวดและอยุติธรรม ในยุคที่ความหวังริบหรี่ เหล่านักสู้หัวใจเด็ดเดี่ยวจึงต้องรวมตัวกัน ทั้งนักศึกษา นักคิด นักปฏิวัติ และผู้กล้าที่พร้อมแลกชีวิตกับอิสรภาพของแผ่นดิน
ความพีคของ “Harbin” อยู่ที่ทีมนักแสดงระดับแม่เหล็กที่มารวมตัวกันอย่างไม่ธรรมดา Hyun Bin พระเอกขวัญใจสายซีรีส์ที่เคยฝากผลงานสะเทือนวงการใน “Crash Landing on You” หรือ “Secret Garden” มาคราวนี้เขาจะมาพลิกบทบาทมารับบทนักสู้เพื่ออิสรภาพที่พร้อมหักด่านเผด็จการ ในขณะที่ Park Jung Min นักแสดงหนุ่มสุดฮอต ผู้เคยฝากผลงานทั้งทางจอเงินจอแก้ว ด้วยฝีมือการแสดงจัดจ้านจะมาสมทบเสริมความเข้มข้นให้ตัวละครที่มีมิติซับซ้อน ส่วน Jeon Yeo Been นักแสดงหญิงมากความสามารถที่เคยฝากฝีมือไว้ในซีรีส์และภาพยนตร์คุณภาพ ก็จะมาร่วมสร้างความเข้มข้นในพาร์ทของตัวละครหญิงยุคสมัยนั้นที่ไม่ได้มีชีวิตง่าย ๆ เธอจะมาสื่อให้เห็นถึงหัวใจแข็งแกร่งและความแน่วแน่ที่พร้อมต่อกรกับอำนาจไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะด้วยปืน คมมีด หรือมันสมอง รวมถึงนักแสดงอีกมากมายที่แต่ละคนก็พร้อมแสดงศักยภาพทางการแสดงแบบจัดหนักจัดเต็ม
เนื้อหาของ “Harbin” ว่ากันว่ามีความเข้มข้น ดราม่า และบู๊แอคชั่นผสมผสาน โดยเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักสู้เพื่อเอกราชเกาหลีที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่หลวงในสมัยที่เกาหลีตกอยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น พวกเขาต้องวางแผนการต่อสู้กันแบบลับ ๆ อาศัยเมืองฮาร์บินเป็นแหล่งซ่องสุม ขบวนการใต้ดิน การลักลอบส่งข่าวสาร การวางแผนลอบสังหาร หรือการทำภารกิจสุดเสี่ยงเพื่อเขย่าบัลลังก์อำนาจของฝ่ายปกครอง ทุกฉากทุกตอนในหนังน่าจะทำให้คนดูลุ้นระทึกและเห็นใจตัวละครที่ทุ่มชีวิตเพื่อปลดเปลื้องโซ่ตรวนการปกครองอันไม่เป็นธรรม
การหยิบยกเหตุการณ์ช่วงประวัติศาสตร์นี้มาถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์ม ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับผู้ชมทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ เพราะนอกจากจะได้เห็นความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และการเสียสละที่แท้จริงของเหล่านักสู้ ช่วงเวลานั้นยังสะท้อนบริบททางสังคม การเมือง และความเหลื่อมล้ำทางอำนาจในยุคอาณานิคมได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าคนดูจะได้สัมผัสทั้งความสะเทือนใจและความฮึกเหิมในคราวเดียว
จุดเด่นอีกอย่างของ “Harbin” คือโปรดักชั่นดีไซน์และการออกแบบฉากที่ละเอียดยิบ รายละเอียดทางด้านเครื่องแต่งกาย ยุทธภัณฑ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ และบรรยากาศเมืองฮาร์บินในยุคนั้น ถูกออกแบบมาอย่างประณีต ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในหน้าหนึ่งของหนังสือประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต แม้จะเป็นงานสร้างสรรค์ในยุคปัจจุบัน แต่ทีมงานก็พยายามรักษาเค้าความสมจริง ทั้งในเรื่องวัฒนธรรม สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และความกดดันทางสังคม ให้ผู้ชมอินกับบรรยากาศและสถานการณ์ทางการเมืองในสมัยนั้นได้แบบเต็มอิ่ม
นักแสดงในเรื่องนี้นอกจาก Hyun Bin, Park Jung Min และ Jeon Yeo Been ยังมีรายชื่อของดาราดังอีกหลายคนมาสมทบ อย่างเช่น Yoo Jae Myung, Jo Woo Jin และ Park Hoon ซึ่งชื่อหลังสุดอย่าง Park Hoon นั้น กำลังตกเป็นชื่อที่ถูกจับตาในบทฝั่งตรงข้ามผู้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เรียกว่ามาทรงนี้น่าจะเป็นบทตัวร้ายหรือตัวปัญหาที่สร้างแรงบีบคั้นให้ทีมพระเอกนางเอกต้องจัดการกันให้ได้ แค่ชื่อ Park Hoon ก็ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นอยากเห็นว่าเขาจะรับบทเป็นใครและแรงสักแค่ไหนในหนังเรื่องนี้
“Harbin” ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณของคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อชะตากรรมอันโหดร้าย ไม่ว่าจะยากจนหรืออ่อนแอเพียงใด พวกเขาก็ยังคงยึดมั่นในความถูกต้องและความหวังที่จะเห็นบ้านเกิดเมืองนอนพ้นจากเงื้อมมืออาณานิคม ฉากแอคชั่นทั้งหลายอาจมีความดิบเถื่อน สมจริง บางฉากอาจต้องทำคนดูน้ำตาซึมจากความโหดร้ายและความสูญเสีย แต่ทั้งหมดก็เพื่อให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่ากว่าที่จะได้อิสรภาพคืนมานั้น มันต้องผ่านการต่อสู้ที่แลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต
นอกจากนี้ การแสดงของ Hyun Bin ที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ล้ำลึก ด้วยสายตาและภาษากาย ก็เป็นจุดขายสำคัญ ไม่ว่าจะแอคชั่นสุดเดือดหรือนาทีแห่งดราม่าเค้นอารมณ์ เขาก็น่าจะเอาอยู่ ถัดมาคือ Park Jung Min ที่มีเสน่ห์จากบทบาทหลากหลายมิติ ผู้ชมจะได้เห็นเขาตีความตัวละครที่มีความซับซ้อน เปลี่ยนผ่านจากความกลัวสู่ความกล้า หรือจากผู้ชายธรรมดากลายเป็นนักสู้ที่พร้อมเอาชีวิตเข้าแลก ส่วน Jeon Yeo Been นั้นขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องบทยาก ๆ เธอเคยแสดงบทดราม่าหนักหน่วงมาหลายครั้ง ครั้งนี้จึงน่าจับตามองว่าเธอจะเพิ่มความเข้มข้นให้พาร์ทของตัวละครหญิงอย่างไร จะเป็นหญิงสาวที่พร้อมหยิบปืนหรือใช้อาวุธทางปัญญาในการต่อสู้กับอำนาจจักรวรรดิญี่ปุ่น
ด้วยการเล่าเรื่องผ่านแอคชั่นและดราม่าชวนลุ้น รวมถึงการผสมผสานฉากประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น “Harbin” จึงเป็นหนังที่ไม่ใช่แค่ดูเอามันส์ แต่ยังทำให้ผู้ชมได้ย้อนนึกถึงประวัติศาสตร์และความเจ็บปวดที่บรรพบุรุษชาวเกาหลีเคยเผชิญหน้า กว่าประเทศจะกลับมาเป็นอิสระ พวกเขาต้องผ่านความยากลำบากแค่ไหน บทเรียนจากอดีตสะท้อนให้เห็นการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้และเชื่อมั่นในคุณค่าของความเป็นไท
สำหรับคอหนังที่ชื่นชอบงานประวัติศาสตร์ การเมือง แอคชั่น และอินกับพล็อตว่าด้วยการกลับมาทวงคืนอิสรภาพ “Harbin” ถือเป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การรอคอย และสำหรับแฟนคลับของ Hyun Bin, Park Jung Min และ Jeon Yeo Been ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นทั้งสามคนมาประชันบทบาทกัน บวกกับนักแสดงสมทบอีกเพียบที่เต็มเปี่ยมด้วยฝีมือการแสดง
ในยุคที่วงการหนังเกาหลีกำลังเติบโตและกล้าหยิบประเด็นหลากหลายมาถ่ายทอด หนังแนวประวัติศาสตร์กู้ชาติอย่าง “Harbin” ก็จะเข้ามาสร้างสีสัน และปลุกไฟความภาคภูมิใจในรากเหง้าแห่งอิสรภาพให้ลุกโชนอีกครั้ง แม้ว่าผู้ชมบางคนอาจไม่ใช่คนเกาหลี แต่ความฮึกเหิมและสปิริตในการต่อสู้เพื่อความถูกต้องถือเป็นสากล ที่ไม่ว่าใครก็สัมผัสได้
ฉะนั้นแล้ว รอติดตาม “Harbin” บนจอเงิน แล้วไปอินกับเรื่องราวเข้มข้น ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคแห่งการต่อสู้ เมื่อหมัด เขี้ยวเล็บ และมันสมองของผู้กล้าคืออาวุธสำคัญในการเอาชนะแรงกดดันจากอำนาจจักรวรรดิ และการฟื้นฟูแผ่นดินให้กลับมามีอธิปไตยที่แท้จริงอีกครั้ง