Friday, December 27, 2024
More

    Latest Posts

    12 ซีรีส์วายสุดปังปี 2024 ที่ไม่ควรพลาด! ดูแล้วอบอุ่นหัวใจจนหยุดไม่อยู่!

    ถ้าพูดถึงซีรีส์ BL (Boys’ Love) ปี 2024 บอกเลยว่าจัดเต็มสุดๆ แต่ละเรื่องคือมีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ต่างกันไป ทั้งฟีลโรแมนติก อบอุ่น ไปจนถึงดราม่าปนคอมเมดี้ เรียกว่าต้อนรับปีใหม่ด้วยความฟินเต็มแม็กซ์ สำหรับใครที่กำลังหาซีรีส์ใหม่ๆ ดูกันยาวๆ ช่วงต้นปี บทความนี้เราจะพาไปส่อง 12 เรื่องเด็ดที่ต้องดูให้ได้ จะมีเรื่องไหนบ้าง ไปดูกันเลย!


    1. Step by Step (ไทย)

    เรื่องแรกขอเปิดด้วย BL สัญชาติไทยที่หลายคนจับตามองตั้งแต่ก่อนออกอากาศ “Step by Step” เล่าเรื่องราวของเจ้านายลูกน้องในออฟฟิศ โดยมีคีย์เวิร์ดหลักคือการค่อยๆ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทีละก้าวๆ เราจะได้เห็นเคมีที่ละมุนและฟีลกู้ดระหว่างพระเอก-นายเอก ที่ต้องช่วยเหลือกันในการทำงานและร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ความชวนลุ้นอยู่ตรงที่ทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนาความรู้สึก จนไม่อาจห้ามหัวใจตัวเองได้ ใครชอบแนวออฟฟิศรักสไตล์โตๆ หน่อย เรื่องนี้มาแน่นอน!

    ทำไมน่าดู:

    • เนื้อเรื่องมีความเรียล จับต้องได้ ใกล้ตัวมาก
    • ได้เห็นโมเมนต์น่ารักๆ ในที่ทำงาน
    • นักแสดงเคมีเข้ากันสุดๆ

    2. Our Dining Table (ญี่ปุ่น)

    ใครที่ชอบซีรีส์ BL ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นหัวใจ ต้องไม่พลาด “Our Dining Table” เรื่องนี้จะพาเราไปพบกับชีวิตของคนสองคนที่ต่างแบกความเหงาไว้ และมาสนิทกันผ่านอาหารบนโต๊ะเดียวกัน ความค่อยเป็นค่อยไปของความสัมพันธ์คือสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้พิเศษสุดๆ ได้ฟีลที่เหมือนจะอยู่ในคาเฟ่อบอุ่นๆ ตลอดเวลา บอกเลยว่าดูแล้วท้องร้อง อยากลองทำอาหารตามไปด้วยแน่นอน

    ทำไมน่าดู:

    • บรรยากาศญี่ปุ่นเคล้าเสียงดนตรีเบาๆ ชวนผ่อนคลาย
    • พัฒนาการของความสัมพันธ์ที่ทำให้เราอมยิ้มตลอดทั้งเรื่อง
    • คอสตูมและโลเคชั่นสวยเรียบง่าย ดูเพลินจนหยุดไม่อยู่

    3. All The Liquors (เกาหลี)

    สายเกาหลีต้องจัด “All The Liquors” ที่จับคอนเซ็ปต์อาหารและเครื่องดื่มมาเป็นสะพานเชื่อมใจระหว่างตัวละคร เรื่องนี้โฟกัสชีวิตของเชฟหนุ่มที่ไม่ค่อยปลื้มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับอีกคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการโปรโมตเหล้าเบียร์ แถมยังต้องมาใกล้ชิดกันเพื่อทำโปรเจ็กต์ การเจอกันที่แตกต่างแต่กลับค่อยๆ ลงตัวแบบงงๆ เคมีพระนายดูแล้วเพลินตา สายหวานแต่ไม่เลี่ยน บอกเลยว่าดูยาวๆ ไม่มีเบื่อ

    ทำไมน่าดู:

    • การผสมผสานความเป็นเกาหลี ทั้งฉากร้านอาหาร บาร์ และวัฒนธรรมดื่ม
    • นักแสดงมีความเป็นธรรมชาติ ดูสมจริง
    • โมเมนต์ฟินๆ กับความค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน

    4. The Eighth Sense (เกาหลี)

    สำหรับสายดราม่าปนลึกซึ้ง “The Eighth Sense” คืออีกหนึ่งเรื่องที่ปีนี้มาแรง ด้วยพล็อตที่บอกเล่าความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบในรั้วมหาวิทยาลัย มีประเด็นแทรกความหมายของ “ประสาทสัมผัสที่แปด” เป็นการเชื่อมต่อทางใจที่ลึกซึ้งกว่าแค่ความรู้สึกปกติ เนื้อหามีทั้งความโรแมนติกและแง่มุมการเติบโตของตัวละคร ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรมากกว่าฉากจิ้นฟินธรรมดา แต่ยังมีสาระเชิงสังคมที่ทำให้เราคิดตามอีกด้วย

    ทำไมน่าดู:

    • พล็อตมีความแตกต่าง น่าสนใจ
    • งานภาพและเพลงประกอบทำออกมาดี อาร์ตสุดๆ
    • ฉากดราม่าที่ทำเอาน้ำตาซึมได้ไม่ยาก

    5. Individual Circumstances (เกาหลี)

    อีกหนึ่ง BL เกาหลีที่มาแรงในปีนี้ “Individual Circumstances” เล่าเรื่องราวการพบกันของสองคนที่เคยเป็นอดีตรักสมัยเรียน แต่ต้องแยกย้ายเพราะมีปมส่วนตัว พอกลับมาเจออีกครั้งในวัยที่โตขึ้น ต่างคนต่างมี “Circumstances” หรือเงื่อนไขในชีวิตที่ตามมา ทว่าความทรงจำดีๆ ยังคงอยู่ แถมอาจกลายเป็นสะพานให้ทั้งสองคืนดีกันได้อีกครั้ง หรือจะกลับไปเจ็บเหมือนเดิมก็ต้องมาลุ้นกัน

    ทำไมน่าดู:

    • เรื่องราวแนวกลับมาเจอกันใหม่ (reunion) ได้กลิ่นอายโรแมนติก-ดราม่า
    • มีพาร์ทย้อนวัยที่น่ารักปนเศร้า
    • นักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ได้ละเอียด เข้าถึงง่าย

    6. Bon Appetit (เกาหลี)

    ปีนี้ BL เกาหลีมาเต็มจริงๆ “Bon Appetit” ก็เป็นอีกเรื่องที่เล่นกับธีมอาหารและความรักคล้ายๆ “All The Liquors” แต่เพิ่มสไตล์อบอุ่นกว่าเดิม เนื้อหาเน้นความใกล้ชิดในครัว มีหลายฉากที่ชวนให้เราเห็นเคมีที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังแฝงเรื่องการเข้าใจกันและกันผ่านเมนูอาหารที่ทำด้วยใจ ดูแล้วทำให้คนดูอยากเข้าครัวทำอาหารเผื่อคนรักสักมื้อเลยล่ะ

    ทำไมน่าดู:

    • เหมาะกับสายชอบลองเมนูใหม่ๆ
    • องค์ประกอบศิลป์สวยงาม ให้ฟีลร้านกาแฟผสมครัวบ้าน
    • พระนายมีโมเมนต์ขี้เล่น ดูแล้วน่าเอ็นดู

    7. A Shoulder to Cry On (เกาหลี)

    “A Shoulder to Cry On” มาพร้อมโทนเรื่องดราม่าตามแบบฉบับซีรีส์เกาหลี แต่ว่าก็มีฉากโรแมนติกให้ฟินไม่น้อย โดยโฟกัสที่เด็กหนุ่มสองคนซึ่งต่างก็มีบาดแผลทางใจ บังเอิญได้ใกล้ชิดกันเพราะกิจกรรมในชมรมกีฬาตอนมัธยมปลาย พอเจอมุมอ่อนแอของกันและกัน เลยก่อให้เกิดความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินเพื่อน ความดราม่าคือแต่ละคนต้องต่อสู้กับปัญหาส่วนตัวแต่ไม่มีใครเข้าใจ จนอีกคนกลายเป็นไหล่ให้ร้องไห้ได้จริงๆ

    ทำไมน่าดู:

    • เล่าเรื่องสภาพจิตใจวัยรุ่นได้ดี ทำให้เราอินตาม
    • มีโมเมนต์ช่วยเยียวยากันที่ซึ้งกินใจ
    • ฉากฟินๆ ตามสไตล์ซีรีส์ไฮสคูลเกาหลี

    8. Jack o’ Frost (ญี่ปุ่น)

    งานฟีลญี่ปุ่นอีกเรื่องที่มาแรงในปีนี้ “Jack o’ Frost” พาเราไปพบกับความโรแมนติกที่มีกลิ่นอายเหงาๆ นิดๆ เรื่องนี้พูดถึงความทรงจำที่หายไป หลังตัวละครหลักเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ไม่สามารถจำอดีตที่เคยมีกับคนรักได้ แล้วความรักครั้งนี้จะกลับมาหรือจะหายไปพร้อมความทรงจำ ต้องคอยลุ้นกัน จุดเด่นคือบรรยากาศแบบฤดูหนาวญี่ปุ่น ฉากหิมะสวยๆ และซีนเงียบๆ ที่สะท้อนความรู้สึกเจ็บปวดกับโหยหาของตัวละครได้ดี

    ทำไมน่าดู:

    • เหมาะกับคนชอบแนวดราม่าเนิบๆ ฟีลเหงา
    • งานภาพสวย มีความเรียลของเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น
    • เนื้อเรื่องกระแทกใจเรื่องการลืม-การจำ

    9. Love Tractor (เกาหลี)

    ใครว่า BL เกาหลีจะมีแค่ในเมืองใหญ่ๆ เพราะ “Love Tractor” พาเราไปเยือนชนบทอันเงียบสงบ ที่พระเอกหนุ่มจากเมืองหลวงต้องหนีมาพักใจ ด้วยการมาอยู่ที่ต่างจังหวัด และได้รู้จักกับหนุ่มชาวไร่แสนจริงใจคนหนึ่ง พล็อตใสๆ เน้นชีวิตสโลว์ไลฟ์ ความต่างชนชั้นที่กลายเป็นเรื่องฮาๆ แต่ก็แสนอบอุ่น จุดขายอยู่ที่ฉากทุ่งนา สวนผัก และชีวิตเรียบง่ายที่เราดูแล้วโคตรผ่อนคลาย

    ทำไมน่าดู:

    • บรรยากาศชนบทหาชมยากในซีรีส์ BL ทั่วไป
    • คู่พระนายเคมีเข้ากันแบบน่ารักสุดๆ
    • มีความเป็นคอมเมดี้ผสมโรแมนติกได้ลงตัว

    10. My Personal Weatherman (ญี่ปุ่น)

    ชื่อเรื่องก็บ่งบอกได้ว่าต้องมี “อากาศ” เข้ามาเกี่ยวแน่ๆ “My Personal Weatherman” เป็นซีรีส์ BL ที่หยิบเรื่องงานพยากรณ์อากาศและอาชีพคนทำงานทีวีมาเล่น พระนายต่างบุคลิกที่ต้องมาอยู่ร่วมกันเพราะเหตุผลทางโชคชะตา แถมยังมีคาแรกเตอร์ที่ต่างขั้ว และมุมมองต่อความรักที่ไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วก็อาจมี “บรรยากาศ” บางอย่างพัดให้หัวใจเคลื่อนเข้าหากัน

    ทำไมน่าดู:

    • พล็อตแปลกใหม่ มีฉากทำงานในสตูดิโอพยากรณ์อากาศ
    • สไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความละเอียดอ่อน
    • ดราม่าเบาๆ ผสมความฮาเล็กน้อย

    11. Stay By My Side (ไต้หวัน)

    ขอข้ามมาที่ BL ไต้หวันกันบ้าง “Stay By My Side” เป็นอีกเรื่องที่ห้ามพลาด เนื้อหาพูดถึงเด็กมหาลัยสองคนที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว แต่ดันต้องมาแชร์ห้องเดียวกัน ความสนุกอยู่ที่การต้องปรับตัวทั้งการใช้ชีวิตและความคิด บวกกับสถานการณ์ชวนเขินที่เกิดขึ้นในห้องเล็กๆ แค่เราเห็นภาพก็ฟินแล้ว สไตล์ไต้หวันจะมีความเป็นละครวาไรตี้หน่อยๆ การแสดงและเคมีคู่กันน่ารัก มุกตลกก็มีมาเรื่อยๆ รับรองว่าดูแล้วอารมณ์ดี

    ทำไมน่าดู:

    • เคมีแบบรูมเมตที่ก่อตัวเป็นความรักแบบไม่ทันตั้งตัว
    • ฉากมหาลัยและหอพักที่ชวนให้คิดถึงวัยเรียน
    • พระเอก-นายเอกมีพัฒนาการชัดเจน ตั้งแต่ไม่ชอบหน้ากันจนรักกัน

    12. Moonlight Chicken (ไทย)

    มาถึงเรื่องสุดท้ายของลิสต์ ปี 2024 นี้ใครกำลังมองหา BL ที่มีความสมจริงเรื่องราวชีวิตคนทำงานกลางคืน ต้องจัด “Moonlight Chicken” ว่าด้วยเรื่องร้านข้าวต้มกลางคืนที่เป็นจุดเริ่มต้นของโชคชะตาทำให้พระเอกกับนายเอกได้พบกัน บรรยากาศตอนดึกๆ ที่มีแต่แสงไฟวับๆ ชวนให้รู้สึกโรแมนติกปนเหงา ความพิเศษคือเรื่องนี้จะมีฉากอาหารไทยง่ายๆ แต่ซ่อนความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิต ที่สำคัญเคมีนักแสดงเข้ากันดีต่อใจมาก

    ทำไมน่าดู:

    • โทนดราม่ากึ่งโรแมนติก บรรยากาศยามค่ำคืน
    • ได้กลิ่นอายสตรีทฟู้ดของไทยแท้ๆ
    • สะท้อนปัญหาและความฝันของคนทำงานตัวเล็กๆ ได้สมจริง

    สรุป

    12 ซีรีส์ BL ที่คัดมาเหล่านี้ มีความหลากหลายในด้านเนื้อหา ทั้งสายดราม่า สายคอมเมดี้ สายฟีลกู้ด หรือสายอบอุ่นละมุนหัวใจ ใครถูกใจสไตล์ไหนก็เลือกดูกันได้ตามอัธยาศัย เรียกได้ว่าเป็นปีทองของวงการ BL เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะค่ายไหนประเทศอะไร ต่างก็ขยันปล่อยโปรเจกต์ออกมาสุดฤทธิ์ ก็ขอให้คอซีรีส์ทั้งหลายเตรียมตั้งตารอดู รอดหวีด ร่วมเชียร์เหล่านักแสดงและทีมงานกันยาวๆ สักเรื่องสองเรื่อง หรือจะดูให้ครบทั้ง 12 เรื่องก็ดีต่อใจไม่แพ้กัน!

    ท้ายที่สุดนี้ ถ้าใครมีซีรีส์ BL ในดวงใจปี 2024 เรื่องอื่นๆ ก็สามารถแนะนำเพิ่มกันเข้ามาได้เลยนะ เพราะช่วงนี้กระแส BL มาแรงไม่หยุดจริงๆ จ้า!

    Latest Posts

    Don't Miss