ถ้าพูดถึงรายการวาไรตี้ที่มีโมเมนต์อบอุ่นหัวใจ และพาเราย้อนไปหาความทรงจำเก่า ๆ กับสถานที่คุ้นเคย หลายคนอาจจะนึกถึงสารพัดโชว์ของเกาหลีที่ไปเที่ยวมหาวิทยาลัยหรือสถานที่ดัง ๆ กัน แต่ตอนนี้รายการที่กำลังเป็นกระแสและทำให้แฟน ๆ พูดถึงกันมาก ๆ ก็คือ “Check In Hanyang” ซึ่งตอนล่าสุดนี่แหละ ที่เกิดโมเมนต์น่าประทับใจระหว่างสองนักแสดงเพื่อนซี้อย่าง Kim Min Jung และ Kim Ji Eun เพราะทั้งคู่เพิ่งได้เคลียร์ใจเรื่องความเข้าใจผิดที่สะสมยาวนานกว่า 12 ปี แถมยังมีการพูดเปิดอกกันจนทำเอาทั้งแฟนคลับและเพื่อนร่วมวงการต่างซาบซึ้งไปตาม ๆ กัน
ตั้งแต่ที่มีข่าวว่า Kim Min Jung และ Kim Ji Eun จะมาปรากฏตัวร่วมกันในตอนพิเศษของ “Check In Hanyang” ก็ทำให้หลาย ๆ คนจับตามอง เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยมีโมเมนต์ร่วมจอแบบตั้งใจสักเท่าไหร่ แถมมีข่าวลือเบา ๆ ว่าพวกเธออาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งใครหลายคนก็ไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่ข่าวลือ บางคนก็บอกว่าพวกเธอเคยสนิทกันมาก ๆ จนไม่คิดว่าความสัมพันธ์จะมีปัญหา แต่เหมือนมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นจนทำให้ห่าง ๆ กันไป
ที่มาของความเข้าใจผิด
สำหรับใครที่อาจจะไม่ได้ติดตามข่าววงในมาตลอด ก็อาจจะไม่รู้ที่มาที่ไปแบบละเอียด แต่ในรายการ “Check In Hanyang” ตอนนี้ ทั้ง Kim Min Jung และ Kim Ji Eun ก็เล่าแบบชัดเจนว่าทั้งหมดมันเริ่มจากเหตุการณ์เล็ก ๆ ในกองถ่ายซีรีส์เมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นทั้งสองคนยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเปรี้ยงปร้างเหมือนปัจจุบัน แต่กลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำพูดและท่าทีของกันและกัน
โดย Kim Min Jung บอกว่า ตอนนั้นเธอเหนื่อยมากจากการถ่ายทำซีรีส์ยาวหลายชั่วโมง พอเธอมีสีหน้าไม่ดีหรือเผลอพูดอะไรที่สั้นห้วนไปหน่อยกับคนในกอง หลายคนอาจจะมองว่าเธอหยิ่งบ้าง หรือไม่เป็นมิตรบ้าง ซึ่งเธอไม่ทันได้อธิบายใครเลย ส่วนทางด้าน Kim Ji Eun เองก็อยู่ในจุดที่ไม่ค่อยกล้าเข้าไปคุย เพราะกลัวว่าจะไปกวนหรือโดนมองว่าเป็นการเสียมารยาท พอไม่ได้พูดคุยเคลียร์กันตรง ๆ ก็ต่างคนต่างคิดไปเอง เลยกลายเป็นความรู้สึกอึดอัดที่สะสมเรื่อยมา
เหตุผลที่หายหน้าไปจากกัน
หลังจากซีรีส์เรื่องนั้นจบ ทั้งสองคนก็แยกย้ายไปทำงานในโปรเจกต์อื่น ๆ แล้วมีโอกาสได้เจอหรือร่วมอีเวนต์กันน้อยลง บางครั้งเจอกันตามงานก็แค่ทักทายผิวเผิน ไม่ได้มีการชวนคุยยาว ๆ ถึงความเข้าใจผิดนั้นอีก เพราะต่างฝ่ายก็ไม่อยากรื้อฟื้น หรือบางทีก็กลัวว่าจะเผลอทำร้ายความรู้สึกกันอีก เลยปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบเงียบ ๆ โดยไม่ได้แก้ไขปมนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอไม่สนิทใจเหมือนสมัยแรก ๆ
คนวงในบางคนเคยเล่าว่า ทั้ง Kim Min Jung และ Kim Ji Eun เป็นคนที่ไม่ชอบดราม่าอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยออกสื่อพูดถึงความขัดแย้งใด ๆ ทำให้หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธออาจจะเคยมีเรื่องกันมาก่อน จนกระทั่งโอกาสครั้งนี้ของ “Check In Hanyang” ที่ทีมงานคงเห็นว่าเคมีของสองคนนี้น่าสนใจ ไหนจะความสัมพันธ์ในอดีตที่ไม่ค่อยชัดเจน พอชวนให้มาร่วมกันในรายการ คงหวังจะสร้างโมเมนต์ประทับใจหรืออย่างน้อยก็อยากให้ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน
Check In Hanyang กับช่วงเวลาเคลียร์ใจครั้งสำคัญ
รายการ “Check In Hanyang” ตอนที่มีสองสาวออกอากาศ มีความยาวประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ พูดกันตั้งแต่บรรยากาศแสนอบอุ่นใน Hanyang ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งสองเคยมาเรียนหรือมาเยี่ยมในสมัยยังเด็ก (แม้บางครั้งจะไม่ได้เป็นศิษย์โดยตรงแต่ก็มีกิจกรรมร่วมกัน) พวกเธอเดินสำรวจตึกเรียน ร้านอาหารรอบ ๆ มหาวิทยาลัย แถมแวะร้านคาเฟ่ที่เคยฮิตมาก่อน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะปนเขิน ๆ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้จะเริ่มต้นพูดถึงเรื่องในอดีตยังไง
จนกระทั่งมีช่วงที่ทีมงานเซ็ตสถานที่นั่งคุยกันแบบสบาย ๆ ในมุมเงียบสงบของมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนั้นเองที่ Kim Min Jung เป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน เธอบอกว่า “มีหลายอย่างที่ฉันอยากขอโทษเธอนะ” ซึ่งทำเอา Kim Ji Eun ถึงกับเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วตอบกลับว่า “จริง ๆ ฉันก็มีเรื่องที่อยากบอกเธอมานานแล้วเหมือนกัน” จากนั้นทั้งคู่ก็ผลัดกันเล่าเรื่องราวของตัวเองในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ว่ารู้สึกยังไง ทำไมถึงไม่ได้เข้าหากัน ทำไมถึงเคยคิดว่าคนอีกฝ่ายอาจไม่ชอบตนเอง
บรรยากาศในช่วงนั้นเรียกได้ว่าทำเอาแฟน ๆ ที่ติดตามทางหน้าจอ และเพื่อนนักแสดงที่มาร่วมรายการอยู่ด้วย ถึงกับน้ำตาซึม เพราะเราได้เห็นมุมที่จริงใจของทั้งสองฝ่ายที่ยอมลดอีโก้และความเคอะเขินลง เพื่อมาเคลียร์ใจให้ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะช้าไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไม่เริ่มต้นเลย
ประเด็นที่เคยเข้าใจผิด
ในบทสนทนาที่พวกเธอแชร์กัน มีอยู่หลายจุดที่แฟน ๆ รู้สึกประทับใจมาก เช่น ตอนที่ Kim Ji Eun บอกว่า เธอเคยได้ยินคนอื่นพูดว่า Kim Min Jung ไม่ค่อยชอบเธอ เพราะคิดว่าเธอเย็นชาและไม่ค่อยสนใจใคร แต่พอได้รู้เรื่องราวว่า อีกฝ่ายแค่เครียดกับงานและสุขภาพไม่ดี ช่วงนั้นยังมีปัญหาครอบครัวเข้ามาอีก เธอเลยเข้าใจว่า ที่เห็นเงียบ ๆ ไม่พูดด้วย ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบ แต่แค่ไม่มีเรี่ยวแรงจะสานสัมพันธ์ใครเพิ่ม
ส่วน Kim Min Jung ก็เล่าว่า เธอเข้าใจผิดคิดว่า Kim Ji Eun เป็นคนที่สนิทกับคนอื่นง่าย แต่กลับทำตัวห่างเหินกับเธอ อาจจะเพราะเธอไม่ถูกชะตาอะไรบางอย่าง เลยไม่ได้กล้าเข้ามาคุยตรง ๆ จนกลายเป็นการตีความไปเองต่าง ๆ นานา
ผลลัพธ์หลังการเคลียร์ใจ
เมื่อได้พูดทุกอย่างออกมาแบบไม่ปิดบัง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความโล่งใจของทั้งสองคน ถึงกับบอกว่า “เสียใจที่ปล่อยให้ 12 ปีผ่านไปโดยไม่ได้พูดอะไร” เพราะหากพวกเธอคุยกันแต่เนิ่น ๆ ความสัมพันธ์คงไม่ต้องมาถึงจุดที่หายไปจากชีวิตกันนานขนาดนี้ ตอนท้ายของรายการจะเห็นว่าพวกเธอกอดกันแน่น และพูดว่า “ต่อไปนี้จะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกค้างคาแบบนี้อีกแล้ว”
แฟนคลับหลายคนในโซเชียลมีเดียต่างพากันชื่นชมว่า โมเมนต์นี้เป็นหนึ่งในช็อตที่อบอุ่นหัวใจที่สุดใน “Check In Hanyang” เลยทีเดียว และยังมีคนคอมเมนต์อีกว่า รู้สึกดีที่ได้เห็นนักแสดงที่เคยมีประเด็นกัน (แม้จะเงียบ ๆ ไม่ได้ออกสื่อใหญ่โต) กลับมาเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนกันอีกครั้ง ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นพวกเธอร่วมงานกันในโปรเจกต์ซีรีส์หรือภาพยนตร์ก็ได้ เพราะเคมีการแสดงของทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ย้อนดูผลงานเด่น ๆ
- Kim Min Jung เป็นนักแสดงที่หลายคนคุ้นหน้าจากซีรีส์และภาพยนตร์อย่าง “Mr. Sunshine”, “The Devil Judge”, รวมถึงละครแนวสืบสวนอีกหลายเรื่อง เธอขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รับบทหลากหลายได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นบทนางเอกซอฟต์ ๆ หรือตัวร้ายที่ซับซ้อน แถมยังมีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นเวลาออกงานอีเวนต์
- Kim Ji Eun เองก็มีผลงานที่ได้รับการจับตาอย่าง “Again My Life” และ “The Veil” ซึ่งเธอโดดเด่นในบทที่มีความแข็งแกร่งและลึกลับ ทำให้คนดูจำได้เสมอว่าเธอไม่ใช่แค่นางเอกใส ๆ แต่ยังสามารถเป็นตัวละครที่ทรงพลังและมีเสน่ห์ได้สุด ๆ
การที่พวกเธอได้มานั่งคุยเปิดใจกันในรายการ “Check In Hanyang” ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่การคลายปมความเข้าใจผิดระหว่างสองคนเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนให้หลาย ๆ คนเห็นว่า บางครั้งเราอาจจะเข้าใจผิดใครบางคนเพราะการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน หรือปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่คิดจะถามไถ่หรือเคลียร์ตรง ๆ สักที จนทำให้เสียเวลาไปเปล่า ๆ จริง ๆ แล้ว หากเราได้พูดคุยกันมากขึ้น อธิบายความรู้สึกให้ชัดเจน อาจจะช่วยให้ความสัมพันธ์กลับมาดีได้ง่ายกว่าที่คิด
กระแสตอบรับจากแฟน ๆ
หลังรายการออกอากาศ ก็มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ใน Soompi และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ กันเป็นจำนวนมาก หลายคนแชร์ว่า รู้สึกอินเพราะเคยเจอปัญหาแบบนี้กับเพื่อนร่วมงานหรือคนสนิทเหมือนกัน พอเห็นตัวอย่างของ Kim Min Jung และ Kim Ji Eun ที่กล้าเปิดใจคุยกันตรง ๆ ก็ยิ่งมีแรงบันดาลใจที่จะลองแก้ปัญหาค้างคากับคนรอบตัว บางคนถึงขั้นบอกว่า “นี่แหละคือชีวิตจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้สถานการณ์มันแย่มาก ๆ แล้วค่อยมาทำความเข้าใจกัน ถ้าเรารู้สึกอะไรก็ควรพูดตั้งแต่เนิ่น ๆ”
ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตเท่านั้นที่ชื่นชม คนในวงการบันเทิงเกาหลีก็ยังรู้สึกประทับใจที่เห็นสองนักแสดงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการความสัมพันธ์ เพราะแม้จะนานถึง 12 ปี แต่พวกเธอก็ไม่ปล่อยให้มันสายเกินแก้ เมื่อมีโอกาสเหมาะสมก็ตัดสินใจเปิดใจกันเลย แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่และความจริงใจในการเป็นเพื่อนร่วมวงการ
สิ่งที่น่าจับตาต่อจากนี้
หลังจบรายการ มีข่าวลือว่าอาจจะมีผู้จัดหรือนักเขียนบทติดต่อทั้งสองให้มาเล่นซีรีส์เรื่องใหม่ด้วยกัน เพราะเคมีสองคนนี้ดูท่าจะเข้ากันได้ดีมาก แฟน ๆ หลายคนก็ตั้งตารอดูว่าพวกเธอจะมีงานคู่ในอนาคตหรือเปล่า ซึ่งทั้งสองคนไม่ได้ปฏิเสธซะทีเดียว แค่บอกเป็นนัย ๆ ว่า “ถ้ามีบทดี ๆ ที่เข้ากับพวกเรา เราก็ยินดีนะ” เลยทำให้หลายคนลุ้นกันตัวโก่ง
สำหรับรายการ “Check In Hanyang” เองก็ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะตอนที่มีสองสาวปรากฏตัว มียอดผู้ชมออนไลน์สูงขึ้น และคลิปไฮไลต์บางช่วงก็กลายเป็นไวรัลในสังคมออนไลน์เกาหลี พาให้บรรยากาศในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ดูคึกคักขึ้นอีกครั้ง มีคนอยากตามรอยเที่ยวเหมือนในรายการอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังมีความเข้าใจผิดกับเพื่อน หรือคนรอบข้าง ก็อาจจะลองเอาเคล็ดลับของทั้งสองสาวไปใช้ดู พยายามหาเวลามาคุยกันแบบจริงจัง ตัดความกังวลหรือฟอร์มออกไปสักครู่ แล้วพูดในสิ่งที่เรารู้สึกจริง ๆ บางทีสิ่งที่เรากลัวกันมานาน อาจจะไม่มีอะไรซับซ้อนอย่างที่คิด แล้วเราก็จะได้รักษามิตรภาพสำคัญ ๆ ในชีวิตไว้ ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเสียเปล่าเหมือนที่เกิดขึ้นกับ Kim Min Jung และ Kim Ji Eun ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา
นี่คือบทสรุปสั้น ๆ แต่หวังว่าจะช่วยให้ใครก็ตามที่กำลังตามติดเรื่องราวของสองนักแสดงคนเก่งคู่นี้ เข้าใจภาพรวมว่าเกิดอะไรขึ้นใน “Check In Hanyang” บ้าง และทำไมคนถึงพูดถึงกันมาก แต่เชื่อว่าใครที่ได้ดูตอนเต็ม ๆ จะต้องรู้สึกอิ่มใจกว่านี้แน่นอน เพราะการได้เห็นความจริงใจของสองสาว มันให้พลังบวกสุด ๆ จนเรารู้สึกว่า หากวันหนึ่งต้องเข้าใจผิดกับเพื่อนบ้าง เราก็ควรมีความกล้าที่จะเปิดใจคุยกันเช่นกัน