เมื่อพูดถึงแบรนด์หรูที่ทุกคนรู้จักอย่าง Chanel การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญอย่าง Creative Director ย่อมเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากทั้งวงการแฟชั่นและคนรักแบรนด์อย่างมาก การที่ Matthieu Blazy ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ จึงเป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงเป็น “คนที่ใช่” สำหรับ Chanel
1. ประสบการณ์ที่หลากหลายในวงการแฟชั่น
Matthieu Blazy ไม่ใช่คนใหม่ในวงการแฟชั่น เขาผ่านงานกับแบรนด์ดังมากมาย เช่น Bottega Veneta, Maison Margiela, และ Raf Simons สไตล์การออกแบบของเขาเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการผสมผสานความเรียบง่ายและความหรูหราได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะกับภาพลักษณ์ของ Chanel ที่ต้องการรักษาความคลาสสิกแต่ก็ต้องทันสมัย
2. ความสามารถในการเล่าเรื่องผ่านแฟชั่น
สิ่งที่โดดเด่นในผลงานของ Blazy คือการเล่าเรื่องผ่านเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นโทนสี การตัดเย็บ หรือแม้กระทั่งการจัดโชว์ เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์และวิสัยทัศน์ของคอลเลกชันออกมาได้อย่างชัดเจน Chanel เองต้องการใครสักคนที่สามารถสานต่อความสำเร็จนี้ และ Blazy ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง
3. การต่อยอดแบรนด์ในยุคใหม่
Chanel ในยุคปัจจุบันต้องแข่งขันกับแบรนด์หรูอื่นๆ ที่ต่างพยายามสร้างความน่าสนใจให้กับคนรุ่นใหม่ Blazy เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการสร้างคอลเลกชันที่เชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุที่ยั่งยืน หรือการออกแบบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
4. ความสัมพันธ์กับทีมงาน Chanel
การทำงานในแบรนด์ใหญ่เช่นนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสามารถสื่อสารและร่วมมือกับทีมงานได้ดี Blazy ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานในขณะที่ยังรักษาความเป็นหนึ่งเดียวในทีมงานได้อย่างดีเยี่ยม
Chanel กับทิศทางใหม่ที่น่าจับตามอง
การที่ Chanel เลือก Matthieu Blazy นั้นเป็นสัญญาณว่าแบรนด์กำลังมุ่งสู่อนาคตใหม่ที่น่าสนใจและคาดหวังได้ เราอาจจะได้เห็นคอลเลกชันที่น่าทึ่ง การผสมผสานสไตล์ใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในวงการแฟชั่น